เกี่ยวกับเรา
บริษัท โรงงานทอผ้าใบไนล่อนชัยศิริ จำกัด(CSNC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2521 โดย ท่านประธาน กิมเช็ง เล็กวิจิตรธาดา
บนพื้นที่มากกว่า 16,000 ตารางเมตร ในอำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาคร
โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นผู้ผลิต กระสอบพลาสติกสาน ถุงตาข่าย และผ้าใบ พลาสติกสาน ที่มีคุณภาพสูง คงทน สวยงาม และปลอดภัยพร้อมทั้งได้มาตรฐานต่อผู้บริโภคทั้ง ในและต่างประเทศ
ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความสำเร็จ และเพิ่มศักยภาพใน การตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและ ต่างประเทศ ในปี พ.ศ.2553 บริษัท โรงงานทอผ้าใบ ไนล่อนชัยศิริ จำกัด ได้ขยายกำลังการผลิตด้วย เครื่องจักรและอุปกรณ์อย่างครบครัน บนพื้นที่กว่า 84,000 ตารางเมตร ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
ปรัชญา และ อุดมการณ์การดำเนินธุรกิจ
(CSNC Business Philosophy)
Coexistenceof business and community
การดำเนินธุรกิจของทางบริษัทนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมระหว่างตัวบริษัทต่อพนักงานและชุมชนโดยรอบ ซึ่งคนเหล่านั้นจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ขณะทำงานร่วมกับบริษัทฯ
Sustainability
ธุรกิจของบริษัทจะต้องดำเนินไปอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึง สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
No Bias
คือ การดำเนินธุรกิจของ CSNC จะต้องซื่อตรง โปร่งใสและยุติธรรม
Create the superiority
ธุรกิจของ CSNC จะทำการสร้างความแตกต่างเชิงสร้างสรรค์ ทั้งในด้านสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสูงสุด
โดยการหลอมรวมหลักการทั้ง 4 เข้าด้วยกัน นโยบายของบริษัท จึงกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด “ CSNC Be the Best “ซึ่งหมายถึง “ มุ่งมั่นผลิตสินค้าดี มีคุณภาพ ส่งมอบตรงเวลา พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า “ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อปรัชญาและนโยบายของบริษัทฯ บริษัทได้ทำการสนับสนุนนโยบายของทั้งทางภาครัฐและเอกชน ในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้คนในชุมชนเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องดังเช่นคำกล่าวของ ท่านประธาน กิมเช็ง เล็กวิจิตรธาดา ที่ว่า
“ จริงอยู่ที่ว่า ในการทำธุรกิจ สิ่งที่บริษัทสนใจเป็นอันดับหนึ่งคือกำไรต่อตัวบริษัท หากแต่ว่านอกเหนือจากการทำกำไรของบริษัท เราต้องดูด้วยว่าเราสามารถตอบแทนสิ่งใดคืนสู่สังคมได้บ้าง ในเมื่อ พนักงานทุกคนในบริษัทและชุมชนโดยรอบคือครอบครัวที่ช่วยเหลือเราและเป็นผู้ที่ให้โอกาสบริษัทเราเติบโต ดังนั้น เราควรที่จะส่งเสริมและสนับสนุนพวกเขาและชุมชนเหล่านั้นให้เติบโตและมีความสุขไปพร้อมกันกับบริษัท เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ”